หห

ผ้าไหมพุมเรียงสุราษฏร์ธานี

ผ้าไหมพุมเรียงสุราษฏร์ธานี

     การทอผ้าพุมเรียง เป็นศิลปหัตถกรรมพื้นบ้านภาคใต้ของตำบลพุมเรียง อำเภอไชยา จังหวัด สุราษฎร์ธานี โดยชาวไทยมุสลิม ที่อพยพมาจากเมืองสงขลา เมืองปัตตานีและเมืองไทรบุรี ซึ่งสืบเชื้อสายมาจากชาวมลายูในหมู่เกาะอินโดนีเซีย เป็นผู้นำความรู้กระบวนการทอผ้าติดตัวมาด้วย ผ่านถ่ายทอดสืบต่อกันมาด้วยวิธีการสังเกต จดจำ และทดลองปฏิบัติทอจริงโดยไม่มีการจดบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร ได้รับการสั่งสมภูมิปัญญาและสืบทอดกันมาสู่อนุชนรุ่นหลัง เป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไป ในความสวยงามของลายผ้าและความประณีตของฝีมือการทอผ้า โดยถือว่าการทอผ้าเป็นหน้าที่ของผู้หญิงทั้งชาวไทยพุทธและไทยมุสลิม ที่จะต้องเตรียมไว้ใช้สอยในครอบครัว โดยเฉพาะหญิงสาวที่จะออกเรือนจำเป็นจะต้องเรียนรู้วิธีการทอผ้า เพื่อเตรียมไว้ใช้ในการแต่งงาน เช่น ผ้านุ่ง ผ้าห่ม และเครื่องใช้ต่างๆ ที่ทำด้วยผ้า ดังนั้น การมีฝีมือในการทอผ้าจึงเป็นการแสดงถึงความเป็นกุลสตรี

เส้นทางลำนำชีวิต 7 เจดีย์

เส้นทางลำนำชีวิต 7 เจดีย์

วัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร จังหวัดสุราษฏร์ธานีเจดีย์พระบรมธาตุไชยาเป็นสถาปัตยกรรมแบบศรีวิชัยองค์เดียว ที่ยังอยู่ในสภาพที่ดีที่สุด สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นประมาณพุทธศตวรรษที่ 13 -14 ไม่ปรากฏประวัติการสร้างและผู้สร้าง โดยสันนิษฐานว่าน่าจะสร้างขึ้นในขณะที่เมืองไชยา สมัยศรีวิชัยกำลังเจริญรุ่งเรืองสูงสุด เจดีย์พระบรมธาตุนี้เป็นสัญลักษณ์ในดวงตราประจำจังหวัดและเป็นสัญลักษณ์ในธงประจำกอง รวมทั้งผ้าพันคอลูกเสือด้วย ดังนั้นการมาเยี่ยมชมวัดพระบรมธาตุไชยาฯ แห่งนี้จึงเป็นเหมือนการเปิดหน้าต่างบานใหญ่ ที่ทำให้เรามองเห็นภาพอันสวยงามจากครั้งหนึ่งในอดีตของสุราษฏร์ธานี

เส้นทางลำนำชีวิต 7 เจดีย์

เส้นทางลำนำชีวิต 7 เจดีย์

พระมหาธาตุเจดีย์บางแก้ว วัดเขียนบางแก้ว จังหวัดพัทลุงเป็นโบราณสถานที่มีอายุกว่า ๑,๐๐๐ ปี เป็นปูชนียสถานที่เก่าแก่ที่สุดแห่งของจังหวัดพัทลุง ประดิษฐานอยู่ภายในวัดเขียนบางแก้ว เชื่อว่าสร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น สันนิษฐานว่าพื้นที่บริเวณวัดเขียนนี้ เป็นที่ตั้งของเมืองพัทลุงมาก่อนเพราะพบซากปรักหักพังของศิลาแลง และพระพุทธรูปมากมาย เช่น พระแก้วคุลาศรีมหาโพธิ (ศิลปะสมัยอยุธยาตอนต้น) พระพุทธรูปสองพี่น้อง ภายในวัดมีพิพิธภัณฑ์จัดแสดงโบราณวัตถุ เช่น ถ้วยชามจีนสมัยราชวงศ์ซุ่ง ราชวงศ์เหม็ง ราชวงศ์เซ็ง สังคโลกสมัยสุโขทัย ศิวลึงค์ ฐานโยนี และพระพุทธรูปสมัยต่าง ๆ ตลอดจนเครื่องมือเครื่องใช้พื้นเมืองเป็นจำนวนมาก เป็นหลักฐานที่แสดงถึงว่าบริเวณนี้มีการติดต่อรับอารยธรรมอินเดียมาตั้งแต่สมัยต้นประวัติศาสตร์ พระมหาธาตุเจดีย์บางแก้วเป็นเจดีย์ก่ออิฐฐาน ๘ เหลี่ยม สันนิษฐานว่าได้รับรูปแบบการสร้างมาจากพระบรมธาตุเจดีย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช ลักษณะศิลปกรรมได้รับอิทธิพลจากพระบรมธาตุ นอกจากนั้นยังมีระเบียงหรือวิหารคตเป็นอาคารก่ออิฐถือปูนหลังคามุงด้วยกระเบื้องดินเผา ล้อมรอบพระมหาธาตุเจดีย์ทั้ง ๓ ด้านยกเว้นทางด้านทิศตะวันออก ภายในเป็นวิหารคตเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัยจำนวน ๓๔ องค์ มีรูปร่างแตกต่างไม่เหมือนกันบางองค์ยิ้มบางองค์น่าหน้าดุดัน แต่ที่เหมือนกันคือหันหน้าเข้าหาเจดีย์ทั้งสิ้น

ผลิตภัณฑ์สินค้าจังหวัดสุราษฎร์ธานี (ไข่เค็มไชยา)

ผลิตภัณฑ์สินค้าจังหวัดสุราษฎร์ธานี (ไข่เค็มไชยา)

ประวัติความเป็นมา      เมืองไชยาหรือเมือศรีวิชัย ในอดีตมีความเจริญรุ่งเรืองระหว่างพุทธศตวรรษที่ 12–17 แต่การทำไข่เค็มเริ่มดำเนินการตั้งแต่ พ.ศ. 2466 ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยมีนายกี่ แซ่ฝัก ชาวจีนกวางตุ้ง ซึ่งมาตั้งบ้านเรือนอยู่ที่ดอนโรงทอง อำเภอเมืองไชยา มีอาชีพเป็นช่างทำสะพานเหล็ก ทางรถไฟสายชุมพร-สุราษฎร์ธานี และเลี้ยงเป็ดไว้กินไข่ ต่อมามีแนวคิดว่าจะทำอย่างไรจะเก็บไข่ไว้ได้นาน ซึ่งใช้ภูมิปัญญา จนกระทั่งยอมรับวิธีการใช้ดินจอมปลวกในอำเภอไชยามาผสมเกลือป่นในอัตราส่วนพอเหมาะ นำมาพอกไข่เป็ดสดที่ได้จากเป็ดที่เลี้ยงเอง คลุกขี้เถ้าแกลบไว้นานพอประมาณ แล้วนำมาต้มกินจะได้ไข่เค็มที่แดงเป็นมัน หอม รสชาติอร่อย ทำให้คนอื่น ๆ ในตลาดไชยาหันมาผลิตไข่เค็มขายกันเป็นจำนวนมากในปี พ.ศ. 2477 ไข่เค็มได้พัฒนาจนมีชื่อเสียง เป็นที่รู้จักของคนทั่วไป ใครไปใครมาก็จะซื้อเป็นของฝากในนาม “ไข่เค็มไชยา” จึงกลายเป็นอาชีพของชาวไชยาในปัจจุบัน

ผลิตภัณฑ์สินค้าจังหวัดสงขลา (ผ้าทอเกาะยอ)

ผลิตภัณฑ์สินค้าจังหวัดสงขลา (ผ้าทอเกาะยอ)

ประวัติความเป็นมา           ผ้าทอเกาะยอ หรือผ้าเกาะยอ เป็นผ้าทอพื้นเมืองของชาวบ้านในตำบลเกาะยอ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา เป็นผ้าพื้นเมืองที่มีชื่อเสียงของจังหวัดสงขลา ผ้าทอเกาะยอส่วนมากทอมาจากเส้นใยฝ้าย มีเนื้อแน่น ลวดลายไม่ซับซ้อน เป็นลวดลายที่เกิดจากการขิด โดยการทอด้วยมือและแบบเหยียบตะกอแยกเส้นยืนขึ้น-ลง ทำให้เกิดลายตารางคล้ายกับผ้าขาวม้า นิยมใช้ทำผ้าโสร่งและผ้านุ่ง โดยมีจุดเด่นของผ้าทอเกาะยอจึงอยู่ที่มีลายในเนื้อผ้าที่นูนขึ้นมา มีลายเส้นละเอียดสวยงามและมีความคงทน เนื้อผ้าดูแลรักษาง่าย ลายตารางที่มีขนาดเล็กซ้อน ๆ กัน ทอด้วยด้ายสองสี เช่น สีขาว-แดง สีขาว-แดงแซมดำ สีขาว-แดงแซมเหลือง จึงมักเรียกผ้านี้ว่า “ผ้าลายราชวัตร” การทอผ้าของชาวเกาะยอนั้น มีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี โดยคนไทยเชื้อสายจีนที่อพยพเข้ามาเป็นผู้สอนการทอให้กับชาวบ้านในบริเวณนั้น ในระยะแรกของการทอนั้นจะทอเพื่อใช้กันในครัวเรือน และแจกจ่ายญาติมิตร ใช้กี่มือที่มีโครงการเป็นไม้ไผ่ และใช้ตรนแทนลูกกระสวยในการทอ ผ้าที่ทอจะเป็นพื้นเรียบ ๆ ไม่มีลวดลาย ต่อมาในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย เมื่อมีการติดต่อค้าขายกับชาวต่างชาติ วัฒนธรรมการทอผ้าถูกถ่ายทอดเข้ามาทำให้รูปแบบการทอผ้าเปลี่ยนไปเป็นแบบยกดอกชนิดต่าง ๆ 

คาบสมุทรสยาม

คาบสมุทรสยาม

     เมืองหลวงของสยามนั้นทำไมจึงอยู่ที่อยุธยา ธนบุรี กรุงเทพฯ ? ตอบ ก็เพื่อจะคุมทะเลไงครับ ราชธานีเราไม่เพียงคุมคนคุมไพร่และคุมนาเท่านั้น ยังคุมทะเลด้วย มองเผินๆ คือ คุมอ่าวไทย แต่มองให้ลึกกว่านั้น คุมทะเลอันดามันด้วย จากอ่าวไทย ที่อยู่ใต้อยุธยาไม่มากนั้น อยุธยาย่อมค้าขายและแลกเปลี่ยนอารยธรรมกับจีนได้อย่างสะดวก และจากทะเลอันดามัน ผ่านเมืองทวาย มะริด ตะนาวศรี นั้น อยุธยาก็ย่อมแลกเปลี่ยนสินค้ากับฝรั่ง เปอร์เซีย อาหรับ และอินเดีย ได้ พร้อมทั้งรับศาสนาพราหมณ์และพุทธจากอินเดียด้วย     สยามต่างจากไทยขณะนี้ รู้ดีว่าที่ตั้งของตนนั้นสำคัญยิ่งต่อการเดินทะเลที่จะเชื่อมโยงอินเดีย เปอร์เซีย และฝรั่ง เข้ากับ จีน ญี่ปุ่น เกาหลี เมืองหลวงของเรานั้นอยู่ในวิสัยที่กุมคาบสมุทรไทยได้ทั้งแท่ง ตั้งแต่กุมทวาย มะริด ตะนาวศรี ทางฝั่งอันดามัน เชื่อมเมืองเหล่านี้เข้ากับอยุธยา เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ […]

หมวกกุยเล้ยฉะเชิงเทรา

หมวกกุยเล้ยฉะเชิงเทรา

     เป็นหัตถกรรมดั้งเดิมที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ โดยเลือกสรรและนำเอาวัสดุที่มีอยู่ใกล้ตัวมาใช้ประโยชน์ สร้างเป็นผลิตภัณฑ์ให้มีรูปแบบที่สอดคล้องกับความต้องการใช้สอยในจังหวัดฉะเชิงเทราก็เป็นอีกพื้นที่หนึ่งซึ่งมีวัตถุดิบตามธรรมชาติ ที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ในการจักสานได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นกระบุง กระพ้อมใส่ข้าว หมวกใส่กันแดด แม้กระทั่งผู้ที่อาศัยอยู่ตามแม่น้ำลำคลองก็จะสานสุ่ม ลอบ ไซ ไว้ดักจับสัตว์น้ำ นับเป็นการดำรงชีวิตที่เหมาะสมกลมกลืนกับสภาพสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ อีกทั้งมีการถ่ายทอดความรู้ด้านการจักสาน ให้เป็นประโยชน์แก่คนรุ่นหลังตลอดมา

ผลิตภัณฑ์จากกะลามะพร้าวพัทลุง

ผลิตภัณฑ์จากกะลามะพร้าวพัทลุง

     มนุษย์รู้จักมะพร้าวมาตั้งแต่ครั้งโบราณกาล มะพร้าวเป็นอาหารทำน้ำมัน และทำเป็นเครื่องปรุงอาหารหวานคาวนานาชนิดมะพร้าวจึงเป็นพื้นที่มนุษย์ทุกชาติทุกภาษารู้จักคุ้นเคยเป็นอย่างดี มะพร้าวจึงมีอรรถประโยชน์นานาประการ กะลามะพร้าวนั้นเคยทำเป็นของใช้ประเภท ขันตักน้ำกระบวยตักน้ำและทำเป็นป้อยตวงข้าวสารสำหรับหุงข้าวกันมานาน และก้าวมาถึงวันที่กะลาอันไร้ค่า เกิดมีค่าขึ้นมาในสายตาของนักประดิษฐ์มีการจัดการแปรรูปกะลาเป็นผลิตภัณฑ์ ที่เพิ่มคุณค่าได้มากหลายนอกจากทำเป็นเครื่องใช้ในครัวเรือนแล้ว ยังประดิษฐ์เป็นเครื่องตกแต่งบ้าน เครื่องประดับและเครื่องแต่งกายสภาพสตรี ออกแบบเป็นกระเป๋าถือ สภาพสตรี เข็มขัด เข็มกลัดปั่นปักผม สร้อย ที่เด่น ๆ ก็ได้แก่ โคมไฟฟ้าสามขา และตะเกียงเจ้า พายุนักประดิษฐ์ได้คิดค้นผลิตภัณฑ์กะลามะพร้าวรูปแบบใหม่นานา ชนิด ซึ่งได้หลั่งไหลไปสู่ตลาดภายในประเทศและตลาดต่างประเทศอย่างไม่ขาดสาย

เสื่อกกจันทบุรี

เสื่อกกจันทบุรี

     การทอเสื่อกก  เป็นภูมิปัญญาของคนในท้องถิ่น  ที่นำเอาต้นกกมาแปรสภาพให้เป็นเส้น ย้อมสี  แล้วสานทอให้เป็นแผ่นผืน  เพื่อนำมาใช้ปูลาดรองนั่งหรือนอน  หรือทำธุรกรรมต่างๆ  ตลอดจนทำพิธีกรรมทางศาสนาและความเชื่อ   เสื่อกก  เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีใช้กันอยู่ทั่วไปทั้งในประเทศหรือต่างประเทศ  ทั้งนี้เพราะต้นกกเป็นพืชธรรมชาติที่ขึ้นอยู่ทั่วทุกภูมิภาค และภูมิปัญญาของคนในท้องถิ่นที่นำต้นกกมาแปรสภาพก็มีลักษณะคล้ายกัน หรือได้อิทธิพลทางความคิดจากกันและกัน ทำให้เสื่อกกถูกจัดได้ว่าเป็นปัจจัยจำเป็นอย่างหนึ่ง  ต่อการดำรงชีวิตของผู้คนในอดีต การศึกษาข้อมูลภูมิปัญญาท้องถิ่นการทอเสื่อกกของชุมชนนี้  ก็เพื่อให้เห็นถึงวัฒนธรรมทางภูมิปัญญาของท้องถิ่น  และปัญหาที่เสี่ยงต่อการสูญสิ้นของภูมิปัญญานี้ ว่ามีมากหรือน้อย และด้วยปัจจัยหรือองค์ประกอบใด เพื่อนำไปสู่การอนุรักษ์หรือแก้ไข  สำหรับบุคคลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในโอกาสต่อไป

หัตถกรรมจักสานกระจูด บ้านห้วยลึกสุราษฎร์ธานี

หัตถกรรมจักสานกระจูด บ้านห้วยลึกสุราษฎร์ธานี

     ความเป็นมาหัตถกรรมจักสานกระจูด   แม่เฒ่าเพียร นิ่มเผือก ผู้เป็นต้นแบบของคนรุ่นแรก ผู้เปี่ยมด้วยภูมิปัญญางานสานกระจูด ท่านสานกระจูดเป็นของใช้แบบต่าง ๆ เช่น เสื่อ กระบุง ไว้ใช้ในบ้าน เช่นเดียวกับคนท้องถิ่นภาคใต้ ซึ่งใช้เส้นใยจากพืชที่สามารถหาได้ในท้องถิ่น มาสานเป็นเครื่องใช้ในวิถีชีวิตประจำวัน     ในปี ๒๕๒๗ มีการส่งเสริมศิลปาชีพ แม่เฒ่าเพียร ได้สานสมุกอย่างปราณีตให้กำนันจรัส เศรษฐเชื้อ ส่งเป็นผลิตภัณฑ์ของที่ระลึกเข้าประกวด ณ พระตำหนักทักษิณราชนิเวศ จ.นราธิวาส และได้รับรางวัลในครั้งนั้น เป็นแรงบันดาลใจให้กับคนในชุมชนเห็นคุณค่าและความสำคัญของภูมิปัญญาความรู้ในงานจักสานที่ตนมีอยู่ และเริ่มการพัฒนาผลิตภัณฑ์กระจูด เพื่อให้เป็นประโยชน์แก่ชุมชนและเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปมากขึ้น     ในปี ๒๕๓๕ นางปรีฑา แดงมา ซึ่งเป็นบุตรีของแม่เฒ่าเพียร นิ่มเผือก ได้มีโอกาสส่งผลิตภัณฑ์จักสานกระจูดเข้าประกวด ณ พระตำหนักทักษิณราชนิเวศ และได้รับรางวัลพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ทำให้นางปรีฑา เกิดแรงบันดาลใจที่จะอนุรักษ์และรักษาภูมิปัญญานี้ไว้ไม่ให้สูญหายไปจากชุมชน และเพื่อสืบทอดเจตนารมณ์ของแม่ที่ได้ทำมา […]