พื้นที่และเรื่องราว

เส้นทางลำนำชีวิต 7 เจดีย์

เส้นทางลำนำชีวิต 7 เจดีย์

มีพระพุทธรูปก่อล้อมรอบเจดีย์ เจดีย์ก่อด้วยอิฐถือปูนสูง ตั้งแต่พื้นดินตลอดยาวประมาณ 18 วา ฐานเป็นรูปสี่เหลี่ยม กว้างด้านละ 7 วา องค์พระเจดีย์ก่อสร้างด้วยหินปะการังล้วนทั้งองค์ ตั้งแต่ฐานถึงยอด ปล้องไฉนก็สกัดหินปะการังเป็นวงกลมวางซ้อนกันขึ้นไป มีปล้องไฉนจำนวน 59 ปล้องที่ยอดพระเจดีย์

ผลิตภัณฑ์สินค้าจังหวัดราชบุรี (โอ่งมังกร)

ผลิตภัณฑ์สินค้าจังหวัดราชบุรี (โอ่งมังกร)

ประวัติความเป็นมา      จากคำบอกเล่าของคนเก่าคนแก่ในเมืองราชบุรี เล่าว่า สมัยก่อนนั้น โอ่งที่ใช้กักเก็บน้ำชั้นดี ต้องนำเข้ามาจากประเทศจีน ซึ่งเป็นแหล่งทำเครื่องปั้นดินเผา แต่หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมา การนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศก็เป็นไปอย่างยากลำบากรวมถึงโอ่งด้วย จึงจำเป็นต้องผลิตใช้กันเองภายในประเทศ โดยจุดเริ่มต้นของการทำโอ่งขายในจังหวัดราชบุรี มาจากสองสหายชาวจีน ที่อพยพมาตั้งถิ่นฐานในสยามประเทศ จนได้มาพบแหล่งดินที่ราชบุรี และเห็นว่าเป็นดินดีสีแดงสามารถใช้ปั้นโอ่งได้ จึงลงทุนร่วมหุ้นกัน 3,000 บาท ก่อตั้งโรงงานทำโอ่งขนาดเล็กในปี พ.ศ.2476  ตั้งอยู่บริเวณสนามบิน ตรงข้ามโรงเรียนอนุบาลราชบุรี ในช่วงแรก ๆ จะเน้นทำอ่าง ไห กระปุกต่าง ๆ มากกว่าโอ่ง เมื่อกิจการรุ่งเรือง โรงงานจึงขยายตัวและมีการผลิตโอ่งมากขึ้น หุ้นส่วนหลายคนเริ่มแยกตัวออกไปตั้งโรงงานเอง แต่ก็ยังอยู่ในเขตจังหวัดราชบุรี ทำให้มีโรงงานทำโอ่งกระจายอยู่หลายแห่ง

ผลิตภัณฑ์สินค้าจังหวัดพัทลุง (ข้าวสังข์หยด)

ผลิตภัณฑ์สินค้าจังหวัดพัทลุง (ข้าวสังข์หยด)

ประวัติความเป็นมา      ข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุง ได้รับความสนใจจากประชาชนเป็นจำนวนมาก เพราะเป็นข้าวสังข์ที่ปลูกเฉพาะในจังหวัดพัทลุงเท่านั้น เพื่อส่งเสริมให้มีการพัฒนาคุณภาพข้าวสังข์หยด และส่งเสริมอุตสาหกรรมในท้องถิ่นด้วย รวมถึงยังสามารถกระจายรายได้เข้าสู่ชุมชน     ข้าวสังข์หยดเป็นพันธุข้าวพื้นเมือง เป็นพันธุ์ข้าวเฉพาะถิ่นมีแหล่งปลูกดั้งเดิม อยู่ในจังหวัดพัทลุง ปลูกกันมานานไม่ต่ำกว่า 100 ปี มีลักษณะพิเศษ คือ ข้าวกล้องมีสีแดงเข้ม นิยมบริโภคในรูปแบบข้าวซ้อมมือ จมูกข้าว เป็นข้าวที่มีคุณค่าทางอาหารสูง พันธุ์ข้าวสังข์หยดถูกเก็บรักษาไว้โดยวัฒนธรรมและภูมิปัญญาของชาวเมือง พัทลุง ตลอดระยะเวลายาวนาน จากหลักฐานการรวบรวมพันธุ์ในท้องถิ่นต่าง ๆ ทั่วประเทศ ตามโครงการบำรุงพันธ์ข้าว เมื่อ พ.ศ. 2493 โดยกองบำรุงรักษาพันธุ์ กรมการค้าข้าว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ปรากฏว่า ชื่อข้าวสังข์หยดเป็น 1 ใน 11 ตัวอย่างพันธุ์ข้าวพื้นเมือง ที่เก็บรวบรวมจากอำเภอเมืองพัทลุง

ผลิตภัณฑ์สินค้าจังหวัดนครศรีธรรมราช (เครื่องจักสานย่านลิเภา)

ผลิตภัณฑ์สินค้าจังหวัดนครศรีธรรมราช (เครื่องจักสานย่านลิเภา)

     เป็นเครื่องจักสานประเภทหนึ่ง ที่สานด้วยย่านลิเภา ซึ่งเป็นพืชตระกูลเฟิร์น หรือ เถาวัลย์ชนิดหนึ่ง (ภาษาท้องถิ่นภาคใต้เรียกเถาวัลย์ว่า “ย่าน”) มีคุณสมบัติที่ดี คือ ลำต้นเหนียว ชาวบ้านจึงนำมา จักสานเป็นภาชนะเครื่องใช้ต่างๆ แหล่งผลิตที่สำคัญ ของเครื่องจักสานย่านลิเภาอยู่ที่บ้านหมน ตำบลท่าเรือ อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช และกลายเป็นสินค้าที่มีชื่อเสียงในปัจจุบัน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ สามารถสร้างอาชีพ สร้างรายได้ ให้แก่ประชาชนในท้องถิ่น รวมถึงทำให้เศรษฐกิจของภูมิภาค เครื่องจักสานย่านลิเภา จัดว่าเป็นงานฝีมือชั้นเยี่ยมของชาวภาคใต้ โดยเฉพาะที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ถือเป็นแหล่งที่มีชื่อเสียง ในงานหัตถกรรมชนิดนี้มากที่สุด มีกำเนิดจากการจักสานย่านลิเภา เป็นข้าวของเครื่องใช้พื้นบ้าน ที่มีเอกลักษณ์สืบทอดจากบรรพบุรุษหลายร้อยปี

โอ่งมังกรราชบุรี

โอ่งมังกรราชบุรี

     โอ่งมังกรถือเป็นสินค้าประจำจังหวัดราชบุรีมากว่า 60 ปี     ด้วยเอกลักษณ์ของดินสีแดงอันมีความเฉพาะตัว และความใส่ใจในทุกขั้นตอนการผลิต นับเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นอันเลียนแบบได้ยาก  “เรื่องของโอ่ง”  สถานที่ท่องเที่ยวแนวใหม่ เชิงอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมประจำท้องถิ่น เพื่อสะท้อนวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวราชบุรีอย่างแท้จริงด้วยความมุ่งมั่นในการสืบสานศิลปวัฒนธรรม การปั้นโอ่งมังกร  ของจังหวัดราชบุรี ในรูปแบบดั้งเดิมตั้งแต่อดีตสู่ปัจจุบัน ทั้งด้านความเจริญทางศิลปวัฒนธรรม และการพัฒนาอย่างต่อเนื่องของอัตลักษณ์ประจำจังหวัดให้ชนรุ่นหลังตระหนักถึงความเป็นมาของโอ่งมังกร ปลูกจิตสำนึกการอนุรักษ์และดำรงภูมิปัญญาดั้งเดิมของชาวราชบุรี คงไว้ซึ่งเสน่ห์อันเป็นตำนานมีชีวิตและเป็นที่นิยมตลอดไป สร้างความภาคภูมิใจในความเป็นลูกหลาน “เมืองโอ่งมังกร” และเผยแพร่วัฒนธรรมสู่นานาประเทศ

ผ้าทอเกาะยอสงขลา

ผ้าทอเกาะยอสงขลา

     ผ้าเกาะยอ เป็นผ้าทอพื้นเมืองของชาวบ้านในตำบลเกาะยอ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา เป็นผ้าพื้นเมืองที่มีชื่อเสียงของจังหวัดสงขลา ผ้าทอเกาะยอส่วนมากทอมาจากเส้นใยฝ้าย มีเนื้อแน่น ลวดลายไม่ซับซ้อน เป็นลวดลายที่เกิดจากการขีด โดยการทอด้วยมือและแบบเหยียบตะกอแยกเส้นยืนขึ้น-ลง ทำให้เกิดลายตารางคล้ายกับผ้าขาวม้า นิยมใช้ทำผ้าโสร่งและผ้านุ่ง โดยมีจุดเด่นของผ้าทอเกาะยอจึงอยู่ที่มีลายในเนื้อผ้าที่นูนขึ้นมา มีลายเส้ ละเอียดสวยงามและมีความคงทน เนื้อผ้าดูแลรักษาง่าย ลายตารางที่มีขนาดเล็กซ้อน ๆ กัน ทอด้วยด้ายสองสี เช่น สีขาว-แดง สีขาว-แดงแซมดำ สีขาว-แดงแซมเหลือง จึงมักเรียกผ้านี้ว่า “ผ้าลายราชวัตร”

มีดบ้านพร้าวพัทลุง

มีดบ้านพร้าวพัทลุง

     ประวัติความเป็นมา กลุ่มตีเหล็กบ้านพร้าว ได้จัดตั้งกลุ่ม เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๙ ตั้งอยู่เลขที่ ๒๓๕ บ้านหน้าป่า หมู่ที่ ๘ ตำบลบ้านพร้าว อำเภอป่าพะยอม จังหวัดพัทลุง เนื่องจากราษฎรในหมู่บ้าน มีอาชีพทางการเกษตร (ทำสวนยาง) เป็นหลัก เมื่อกรีดยางเสร็จแล้ว ช่วงบ่ายจะมีเวลาว่าง นายวินัย มาลา จึงได้ชักชวนราษฎรในหมู่บ้าน และหมู่บ้านใกล้เคียง มารวมกลุ่มกัน เพื่อตีมีด ทำเครื่องมือการเกษตรหลายชนิด โดยนายวินัย มาลา ได้เป็นผู้ฝึกสอนการทำให้กับสมาชิก ซึ่งมีสมาชิกทั้งหมด ๑๓ คน เอกลักษณ์/จุดเด่นผลิตภัณฑ์ -เป็นมีดโบราณ -มีลวดลายไทยรูปแบบต่าง ๆ ในตัวมีด -ผลิตภัณฑ์มีหลายประเภท -รูปแบบตัวมีดเป็นรูปหัวนก รูปหนังตะลุง -การผลิตเป็นแบบดั้งเดิม ใช้แรงงานคน

ผลิตภัณฑ์จักสานย่านลิเภา

ผลิตภัณฑ์จักสานย่านลิเภา

     เครื่องจักสานย่านลิเภา จัดว่าเป็นงานฝีมือชั้นเยี่ยมของชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช ถือเป็นแหล่งที่มีชื่อเสียง ในงานหัตถกรรมชนิดนี้มากที่สุด มีกำเนิดจากการจักสานย่านลิเภา เป็นข้าวของเครื่องใช้พื้นบ้าน ที่มีเอกลักษณ์สืบทอดจากบรรพบุรุษหลายร้อยปี จนกระทั่งเป็นที่รู้จักของคนเมืองเหลวง เมื่อเจ้านายจากหัวเมืองใต้ นำขึ้นมาถวายในราชสำนัก และเผยแพร่ในหมู่เจ้านาย มาตั้งแต่สมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ จนในปี พ.ศ.2513 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระราชดำริ ให้สอนการสานย่านลิเภาในโครงการศิลปาชีพ มีการพัฒนารูปแบบได้อย่างสวยงามประณีต เป็นที่นิยมอย่างกว้างขวางทั้งระดับท้องถิ่น ภูมิภาค และทั่วประเทศ ด้วยคุณสมบัติเฉพาะตัวของย่านลิเภา ที่มองๆ ดูก็คล้ายๆ กับเถาวัลย์นั้น จะมีความเหนียว ทนทานอายุใช้งานมากเป็นร้อย ๆ ปี  

หนังตะลุง

หนังตะลุง

     หนังตะลุงเป็นวัฒนธรรมที่เก่าแก่ของมนุษย์ ในอินเดียสมัยพุทธกาลพวก พราหมณ์ใช้หนังที่เรียกว่า “ฉายานาฎกะ” เล่นบูชาเทพเจ้าและเป็นการแสดงที่แพร่หลายมากในประเทศแถบเอเชีย อาคเนย์ ไม่ว่าจะเป็น เขมร ลาว มาเลเซีย สิงคโปร์ และทางตอนใต้ของประเทศไทยที่เรียกว่า “หนังตะลุง” สันนิฐานว่าเข้า มาในประเทศไทยตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 13 ในสมัยอาณาจักรศรีวิชัย เมื่อกลุ่มพราหมณ์ลัทธิไศวนิกายเข้ามาเผยแผ่ศาสนา เนื่องจากพบว่า มีรูปหนังสมมุติเป็นพระอิศวรซึ่งเป็นใหญ่ในศาสนานี้รวมอยู่ด้วย หนังตะลุงเป็นศิลปะการเล่นเงา ที่มีทั้ง บทพากย์และบทเจรจา โดยแต่ละจังหวัดในภาคใต้ก็ยังมีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างกันทั้งรูปหนังและธรรมเนียมการเล่น แต่ เดิมนิยมนำเรื่องรามเกียรติ์มาแสดงและได้มีการเปลี่ยนแปลงปรับปรุงรูปแบบการแสดงให้ทันยุคสมัย นิยมจัดแสดงในงาน เฉลิมฉลองต่าง ๆ เป็นสิ่งที่ผูกพันกับวิถีชีวิตของชาวใต้และยังได้รับความนิยมมาจนถึงปัจจุบัน

เงินตรานโม

เงินตรานโม

     “นโม” เงินตราของเมืองคอน  เป็นวัตถุชิ้นเล็กๆที่สร้างขึ้นมาอย่างปราณีต สวยงาม มีความหมายอย่างครบถ้วน ทั้งมีความหมายอย่างกลมกลืน ในตัว ทั้งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เป็นเครื่องรางของขลังสามารถนำติดตัวไปใช้ คนเมืองคอนเป็นคนช่างคิด  ช่างสร้างสรรค์ ทำเงินตรา”นโม”ด้วยความมีศิลปะที่น่ายกย่องของคนเมืองคอนโบราณ สมดังคำที่ว่า”คนเมืองคอน เมืองนักปราชญ์ มาแต่โบราณ ที่ก่อเกิดวัฒนธรรม “เงินตรานโม”เป็นวัตถุทางวัฒนธรรมอย่างหนึ่งปัจจุบันเป็นศิลปประจำชาติไทยที่ ทั่วโลกยอมรับถึงความเป็นคนอนุรักษ์ประเพณี-วัฒนธรรม คนรุ่นใหม่หรือสืบเชื้อสายโลหิตเมืองนคร ควรนับถือในเกียรติคุณประวัติของโบราณวัตถุอันนี้ของบ้านเราไว้  เงินตรานโมพอจะเชื่อได้ว่าบรรพบุรุษของเราได้ใช้ เพื่อประโยชน์สุขมาแล้ว  เรายังต้องมีน้ำใจนับถือสงวนศักดิ์ศรีต่อโบราณวัตถุนี้ของเราเสมอด้วยของมีค่าอันหนึ่ง ทั้งควรภาคภูมิใจ ที่เมืองนครของเราเคยเป็นราชธานีมาครั้งหนึ่งแล้ว  น่าที่จะรักษาวัฒนธรรมเหล่านี้ไว้เพื่อรุ่นสู่รุ่น ต่อรุ่นตลอดไป มิใช่หลงธรรมเนียมฝรั่งแล้วเดินตามก้นฝรั่ง ซึ่งไม่มีวัฒนธรรมของความเป็นชาติ ปัจจุบันฝรั่งบางชาติกำลังวิ่งเสาะหาความเป็นชาติ ความเป็นเอกลักษณ์ ความเป็นมาของตนเองในอดีต ยอมแม้จะสร้างสิ่งนั้นมาอาจเป็นการลวงก็เป็นได้